เกษียณแต่ตัวแต่สายใยสหกรณ์ไม่เคยเกษียณ
ณ อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
วันที่ 6-7 กรกฎาคม 2556

: รอน แรมทาง

เหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาตลอดชีวิต ถึงคราวที่วัยเกษียณต้องเติมสีสันและความสุขให้กับตัวเองสักที ครานี้สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด จัดโครงการสายใยสหกรณ์ไม่เกษียณ  เป็นประจำทุกปี ในปี 2556 นี้ ทัศนศึกษา ณ อัมพวา เมื่อวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2556 จังหวัดสมุทรสงคราม  สหกรณ์มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกกับสหกรณ์ และสมาชิกยังคงเป็นสมาชิกสหกรณ์ต่อไปได้ งานนี้นอกจากสมาชิกยังได้พบปะสังสรรค์กันแล้ว ยังได้รับฟังสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับหลังจากเกษียณอายุราชการอีกด้วย


อัมพวา..ชุมชนริมน้ำที่ยังคงมีเสน่ห์ เมืองเล็ก ๆ น่ารักริมแม่น้ำกลอง  ดินแดนสองน้ำที่แม่น้ำและทะเลไหลมาบรรจบกันที่ปลายน้ำ กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ขับรถมาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง

วันแรกของการเดินทางเราเริ่มต้นเดินทางกันด้วยรถตู้มุ่งสู่ โรงแรมอัมพวา รีสอร์ทแอนด์ สปา เพื่อเก็บสัมภาระ และเดินทางไปไหว้พระ ณ วัดต่างๆ อิ่มบุญ อิ่มใจ พร้อมได้รับความรู้ไปในตัว เราเริ่มต้นกันที่วัดบางกุ้ง



วัดบางกุ้ง
วัดบางกุ้งนอกจากจะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ด้วย “โบสถ์ปรกโพธิ์” ที่ถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ – ต้นไทรขนาดใหญ่ ซึ่งภายใน เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อนิลมณี และยังมีหุ่นจำลองทหารพระเจ้าตากในค่ายบางกุ้ง ได้เที่ยวสนุกอิงประวัติศาสตร์ด้วย


วัดบางแคน้อย
ชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลข้ามแม่น้ำ ความงามของโบสถ์ไม้สักทองของวัดบางแคน้อย นอกจากจะเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ผนังภายในพระอุโบสถยังทำจากไม้สักแกะสลักเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติ ทำได้ละเอียดงดงามมาก ทั้งยังหาดูได้ยาก เนื่องจากต้องใช้งบประมาณ เวลาและฝีมือการแกะสลักที่ประณีตบรรจงโดยช่างที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ อะเมซิ่งแบบนี้...มีให้เห็นที่วัดบางแคน้อยแห่งเดียวเท่านั้น

จากนั้น ตลาดน้ำยามเย็น เป็นจุดที่ไม่ควรพลาด


แน่นอนว่า เมื่อมาเที่ยวที่อัมพวาแล้ว ไม่ได้มาที่ตลาดน้ำอัมพวานี้ ถือว่ามาไม่ถึงแน่นอน ยกตำแหน่งตลาดน้ำอัมพวาที่ฮ๊อตที่สุด เพราะนอกจากจะได้ชิมและช้อปกันจนจุใจเต็มอิ่ม ที่กินขาดแบบนิ่ม ๆ เห็นจะเป็นบรรยากาศชิ๊ล..ชิล...ที่ยกเอาความคลาสสิคของห้องแถวไม้เก่า มาผสมเข้ากับไอเดียกิ๊บเก๋ของที่พักและร้านค้าริมคลองจนกลายมาเป็นตลาดน้ำอัมพวา

ช่วงหัวค่ำนั่งเรือไปชมหิ่งห้อย สวยงามระยิบระยับ เสร็จแล้วก็ได้เวลาสังสรรค์ฟังเพลงอันไพเราะของเหล่าสมาชิก บางคนก็เต้นแบบสเต็บเท้าไฟ จนแดนเซอร์ตัวจริงยังอาย !!

                                            
                                          
                                          
                    
วันที่2  อากาศยามเช้า สดชื่นได้ใส่บาตร เรียกได้ว่ามาทริปนี้ครบครันจริงๆ จากนั้น เรามีนัดกันที่ห้องประชุมของโรงแรม เพื่อไปฟังสิทธิประโยชน์หลังเกษียณอายุราชการ โดยรองประธานกรรมการ นายวิฑูรย์ ไชยเพิ่ม ได้กล่าวเปิดงานสัมมนาในครั้งนี้ แถมท้ายด้วย วิทยากรผู้มากความสามารถ นายสุภาพ คำแฝง กรรมการและเลขานุการคณะศึกษาและประชาสัมพันธ์ ที่ให้ความรู้และคำแนะนำสิทธิประโยชน์หลังเกษียณอายุราชการ สมาชิกได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก                                   

                                            

                                            

                                            
จบการสัมมนาเสร็จ เก็บสัมภาระ เดินทางไปชมความสวยงามของ อุทยาน ร.2

                                            
                                               
อุทยานที่จำลองวิถีชีวิตคนไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมาไว้ให้เยี่ยมชมศึกษาในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นหมู่เรือนทรงไทยทั้ง 4 หลัง นอกจากนี้ยังมีสวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด ภายในอุทยานริมน้ำบรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ไม้มงคลมากมาย เดินเล่นสูดอากาศได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินใจ

จากนั้นแวะซื้อของฝาก และทุกท่านกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ และพกพาความประทับใจกับสิ่งที่สหกรณ์มอบให้

เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วยิ่งนัก ไม่ทันไร ก็ต้องถึงเวลาบอกลากันซะแล้ว พบกันใหม่ ปีหน้านะจ้ะ ขอให้ทุกท่านเกษียณอย่างเกษมนะครับ