ตอนที่ 7 ศัตรูของเงินออม
ศัตรูของเงินออม
ชั่วข้ามคืนบางทีชีวิตก็พลิกผัน นักล่าฝัน กับบ้านราคาหรูและงานเท่ๆที่ตามมา ทุกๆต้นเดือนกลางเดือน มีนักล่ารางวัลที่แค่พลิกฝ่ามือชีวิตก็กลายร่างจากยาจกขึ้นเป็น คนเคยจน คนสมหวังมีนับคน แต่ที่พลาดร่วงนั้นล้วนนับไม่ถ้วน แต่สังคมยังเต็มไปด้วยนักล่า...
เอื้อ เป็นเพียงนักศึกษาปี 3 เอื้อก็เป็นนักล่าคนหนึ่ง เอื้อไม่อยากแค่เรียนเพื่อปริญญาใบเบิกทางอย่างเดียว จบแล้วแค่เพียงนักล่าเงินเดือน ไม่ใช่เอื้อแน่ เอื้อซึมซับประสบการณ์จากครอบครัวมาพอควร รู้ว่าจะเป็นนักล่าฝันที่ประสบความสำเร็จด้วยตัวเองต้องเตรียมการอย่างไร ไม่ใช่ให้ชีวิตพลิกฝันเพียงแค่พลิกฝ่ามือ ชีวิตที่แท้ต้องลงทุนมากกว่านี้
แม่ของเอื้อจากนักกู้เริ่มเป็นนักล่าฝันอีกคน เมื่อวาน 15 พ.ย. นะรู้สึกแม่จะไปที่ทำงานพ่อแต่เช้า เพื่อปฏิบัติภารกิจล่าฝันบางอย่าง นั่นคือสมัครเป็นสมาชิกสมทบสหกรณ์ แม่ฝันจะมีเงินออมของตัวเองซะที แล้วแม่ก็เริ่มสมหวัง โทรมาคุยกะเอื้อยกใหญ่
แม่ว่า “เอื้อ เอ้ย แม่มีบัญชีเงินเก็บเองแล้วนะ”
เอื้อ “ ดีจังแม่ ปีหน้าเอื้ออ่านข่าวแล้ว ท่าทางเศรษฐกิจเราชักมีปัญหา ไม่ว่าใครต่างออกมาให้ความเห็นว่าประชาชนควรเก็บและรักษาเงินออมไว้ เอื้อพยายามช่วยแม่จ่ายน้อยลงนะ แม่จะได้มีเงินเก็บตอนเกษียณเยอะๆ”
แม่ “ขอบใจลูก ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกจ๊ะ แม่แบ่งเงินเป็นสัดส่วน กำลังลงตัว เงินเก็บจะมาจากอาชีพเสริมแม่ไง งวดนี้ เริ่มมีกำไรแล้ว ...พ่อก็มีเงินเพิ่มทุกปี เลิกบุหรี่แล้วด้วย เหล้าก็ซาๆลงบ้างแล้ว บอกน้องๆด้วยให้ตั้งใจเรียน แค่นี้ก่อนนะเปลืองค่าโทร”
เอื้อยิ้มกับโทรศัพท์ แม่เริ่มประหยัดจริง ๆ นะแหละ เมื่อก่อนโทรจัง จนถูกแซวว่ากลัวเจ้าของคลื่นไม่รวยรึไง แม่ได้เริ่มออมซะทีนะ ออมเมื่อไหร่ก็ไม่สาย เพียงแต่อาจได้น้อยกว่าคนที่ออมก่อนในอัตราส่วนการออมที่เท่ากันนะ ออมก่อนรวยก่อน เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน แถมถ้าหยุดออมก่อนก็ยังได้มากกว่าอยู่ดี นั่นเป็นเพราะพลังของดอกเบี้ยและเวลานะเอง
ส่วนคนออมหลัง ถ้าต้องเผชิญกับอุปสรรคระหว่างการออมอีกก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ตามไม่ทันเลยหละ ภาวะเงินเฟ้อที่กำลังเฉียดๆมาหานี่แหละตัวดี ทำให้เงินออมลดค่าลงไปอีก ขืนบอกแม่ตอนนี้หมดเดี๋ยวแม่จะกำลังใจหด แต่ลำพังเงินเฟ้อนะไม่เท่าไร พี่อาทรเคยบอกว่า
“เอื้อ พี่นะเก็บเงินไม่ได้ทุกเดือนตามที่ตั้งใจเล้ย ไม่งั้นตอนนี้นะ เศรษฐีน้อยแล้วจ๊ะ”
เอื้อถามกลับไปว่า “อ้าวทำไมละ”
พี่อาทร “ ก็คนมันอยากนะ เห็นแล้วอยากได้ เดี๋ยวซื้อโน่นนี่ไม่หยุดตะละเดือนนะ อีกอย่างอยู่ในเมืองเดี๋ยวไม่อินเทรนด์นะ ฮิฮิ”
โธ่ถัง ! เอื้ออุทาน “พี่ตู คิดว่าจะแน่เห็นมาดขรึมๆ ที่แท้ก็ชอบช้อบกะเขาด้วย”
นี่แหละศัตรูของการออม ที่เอื้อเห็นของจริง การไม่มีวินัยการออม ทำให้แผนการออมเสียไปและจะเป็นไปเรื่อยๆ กลับบ้านเที่ยวหน้าเอื้อจะไปเลคเช่อร์ให้แม่ฟังดีกว่า
ศัตรูของเงินออม ที่เห็นจังๆ สรุปได้ 3 ข้อ คือ
1. ภาวะเงินเฟ้อ ไม่ขึ้นกะตัวเรา ถ้าเงินเฟ้อมากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงก็ลดน้อยลง เช่น ถ้าเราฝากเงินดอกเบี้ย 3.5% ถ้าอัตราเงินเฟ้อ 1.5% เท่ากับว่าเราได้ดอกเบี้ยที่แท้จริงเพียง 2% ถ้าเงินเฟ้อสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เท่ากับว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นลบ ค่าเงินของเราก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ เช่นถ้าเราฝาเงินธนาคาร 100 บาทดอกเบี้ย 1% เงินเฟ้อ 2% เท่ากับดอกเบี้ยที่แท้จริง ติดลบ 1% หมายความว่าปีหน้าค่าเงินฝากของเราเหลือ 99 บาท
2. ความโลภ ตัวเองกำหนดเลยหละ ความอยากเกินเหตุผลที่ควรจะได้ เช่น ชอบเล่นการพนัน บ้าหวย การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เพราะหวังผลตอบแทนสูงเกิน ลงทุนน้อยแต่อยากได้มาก เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เงินออมที่มีหรือกำลังจะมีสูญสลายไปได้ทั้งสิ้น
3. การไร้วินัยการออม ข้อนี้ร้ายสุดเลย เพราะการออมนั้นต้องปลูกฝังจนเป็นนิสัย การออมนั้นเป็นการเก็บทีละเล็กทีละน้อย โดยใช้ระยะเวลายาวนานต่อเนื่องจนเป็นนิสัย จากเงินร้อยเป็นเงินล้าน เราอาจดูอุปนิสัยคนจากการออมของเขาได้ คนมีเงินเดือนสูงอาจจับจ่ายใช้สอยหมดจนเป็นหนี้ เงินออมอาจน้อยกว่าคนเงินเดือนน้อย บางครั้งจึงไม่สำคัญว่าเงินเดือนเท่าไร แต่วินัยอุปนิสัยที่บังคับตนเองให้เหลือเดือนละเท่าไรสำคัญกว่า การออมจึงเป็นเรื่องของการสร้างวินัย
อย่างพี่อาทรนั่น ความฝันจะนำเงินออมส่วนหนึ่งไปสร้างงานที่ตัวเองฝัน จึงยังอยู่ห่างไกล
สงสัยเอื้อจบ เอื้อไล่ทันแหงๆ ไม่อยากโม้ ตอนนี้เอื้อเก็บออมทุกเดือน ได้โข อีกสิบปีต่อจากนี้ นักล่าฝันคนนี้ จะพิสูจน์ให้โลกเห็น ด้วยกำลังแรงกายและแรงคิด ต้องใช้เวลาแต่ช้าๆได้พร้าเล่มงามไม่ใช่เหรอ ...
........................................................
โลก ของ เอื้อและอาทร
โดย สนวลี