เกษียณเป็นสมาชิกต่อได้ และรับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม
สิทธิประโยชน์สมาชิกเกษียณอายุราชการ
"เกษียณแล้วยังคงเป็นสมาชิกสหกรณ์ได้ และสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม"
หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องเกษียณเป็นเรื่องไกลตัวเพราะว่าอายุยังน้อยยังมีเวลาเก็บออมได้อีกนาน นั่นคือ ความประมาท อย่าลืมว่าช่วงเวลาที่ชีวิตดำเนินไปเรามีความจำเป็นในการใช้เงินตลอดเส้นทาง จึงจำเป็นต้องวางแผนการเงินให้ดีมีการจัดเตรียมเงินให้เพียงพอในแต่ละช่วงวัย และถึงแม้เราจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ยังคงเป็นสมาชิกสหกรณ์ต่อไปได้ และยังได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่าสมาชิกที่ยังไม่เกษียณอายุราชการ เพื่อชีวิตที่สุขกายสบายใจ
“เกษียณแต่ตัว แต่สายใยยังคงอยู่นิจนิรันดร์”
1. สวัสดิการเพื่อวันเกิดสมาชิก
สหกรณ์มอบสวัสดิการเพื่อวันเกิดสมาชิกให้กับสมาชิกทุกคน ในวันคล้ายวันเกิดสมาชิกและวันคล้ายวันก่อตั้งสหกรณ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กันยายนของทุกปี โดยสมาชิกไม่ต้องยื่นเอกสารเพื่อขอรับสวัสดิการนี้ สมาชิกที่รับโอนมาจากสหกรณ์อื่นให้นับอายุการเป็นสมาชิก ตั้งแต่วันที่สหกรณ์ได้รับโอนผู้นั้นเป็นสมาชิกสหกรณ์
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- จ่ายให้แก่สมาชิกทุกคนในวันคล้ายวันเกิดสมาชิก จำนวน 100 บาท
- จ่ายให้แก่สมาชิกทุกคนในวันคล้ายวันก่อตั้งสหกรณ์ตามอายุการเป็นสมาชิก
อายุการเป็นสมาชิก 1 – 15 ปี จำนวน 100 บาท
อายุการเป็นสมาชิก 15 ปีขึ้นไป จำนวน 200 บาท
อายุการเป็นสมาชิก 30 ปีขึ้นไป จำนวน 300 บาท
- การนับอายุการเป็นสมาชิกให้นับตั้งแต่วันเข้าเป็นสมาชิกถึงวันคล้ายวันก่อตั้งสหกรณ์ (28 กันยายน)
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
2. สวัสดิการเพื่อส่งเสริมการศึกษาของสมาชิก
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- ยื่นขอรับสวัสดิการพร้อมสำเนาประกาศนียบัตร หรือปริญญาบัตร หรือหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษา ภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นต้นหรือชั้นสูง หรือได้รับอนุมัติปริญญาบัตร
- จ่ายให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ต่อหนึ่งประกาศนียบัตรหรือหนึ่งปริญญาบัตร ดังนี้
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นต้น ถึงระดับปริญญาตรี จำนวน 1,000 บาท
ระดับปริญญาโท จำนวน 2,000 บาท
ระดับปริญญาเอก จำนวน 3,000 บาท
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1.ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อส่งเสริมการศึกษาของสมาชิก ที่ลิ้งก์นี้
2.สำเนาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นต้น หรือชั้นสูง สำเนาปริญญาบัตร หรือหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษา ภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษาหรือได้รับอนุมัติปริญญาบัตร
3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
4.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.สวัสดิการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของสมาชิก
การเรียนรู้ หมายความว่า การเรียน การศึกษา การสัมมนา การอมรม เกี่ยวกับความรู้ทุกสาขาวิชาการที่หน่วยงานของรัฐ องค์กรในกำกับของรัฐ หรือสหกรณ์เป็นผู้จัดขึ้น
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- จ่ายให้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 500 บาท สมาชิกคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการไม่เกิน 3 ครั้งตลอดอายุการเป็นสมาชิก
- ยื่นขอรับสวัสดิการพร้อมแนบใบเสร็จรับเงินฉบับจริง ภายในกำหนดเวลา 90 วัน นับแต่วันชำระเงิน
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของสมาชิก ที่ลิ้งก์นี้
2. ใบเสร็จรับเงินฉบับจริงจากหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรในกำกับของรัฐ หรือสหกรณ์เป็นผู้จัดขึ้น
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
4. สวัสดิการเพื่ออุปสมบทหรือประกอบพิธีฮัจญ์
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- จ่ายให้แก่สมาชิกที่อุปสมบทหรือประกอบพิธีฮัจญ์ รายละ 2,000 บาท เพียงครั้งเดียว
- ยื่นขอรับสวัสดิการภายในกำหนดเวลา 120 วัน นับจากวันที่ลาสิกขาบท หรือวันที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการสมาชิกเพื่ออุปสมบทหรือประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาหลักฐานการอนุญาตให้ลาอุปสมบท ตามระเบียบของทางราชการ หรือสำเนาใบสุทธิที่แสดงว่าได้อุปสมบทหรือสำเนาการอนุญาตให้ลาไปประกอบพิธีฮัจญ์ ตามระเบียบของทางราชการ หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สวัสดิการเพื่อการสมรส
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- จดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย จ่ายเงินสวัสดิการให้รายละ 1,000 บาท เพียงครั้งเดียว
- ยื่นขอรับสวัสดิการภายในกำหนดเวลา 120 วัน นับแต่วันที่จดทะเบียนสมรส
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อการสมรส ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาทะเบียนสมรส
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สวัสดิการเพื่อบ้านหลังใหม่
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- จ่ายเงินสวัสดิการให้แก่สมาชิกผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านหรือห้องชุดและมีชื่อในทะเบียนบ้าน โดยจ่ายให้ ครอบครัวละ 1,000 บาท เพียงครั้งเดียว
- กรณีซื้อบ้านหรือห้องชุดหรือเพื่อปลูกสร้างบ้านโดยกู้เงินกู้พิเศษเพื่อการเคหะจากสหกรณ์ สหกรณ์จะจ่ายเงินสวัสดิการให้แก่สมาชิกผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยจ่ายให้ครอบครัวละ 2,000 บาท ต่อบ้านหนึ่งหลัง
- ยื่นขอรับสวัสดิการภายในกำหนดเวลา 120 วัน นับจากวันที่มีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังกล่าว โดยพิจารณาจากหลักฐานดังนี้
1. กรณีซื้อขายหรือยกให้ พิจารณาจากวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
2. กรณีปลูกสร้างบ้านเอง พิจารณาจากวันที่ได้รับเลขที่บ้านแต่ทั้งนี้วันที่ได้รับเลขที่บ้านต้องไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1.ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อบ้านหลังใหม่ ที่ลิ้งก์นี้
2.หลักฐานของสมาชิกที่แสดงว่าเป็นบ้านหลังใหม่
◦ สำเนาสัญญาซื้อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของกรมที่ดิน (ทด.13 หรือ อช.16) หรือ
◦ สำเนาสัญญาเงินกู้เพื่อการเคหะของสถาบันการเงิน หรือ
◦ สำเนาใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารจากทางราชการ หรือ
◦ สำเนาใบอนุญาตให้เลขหมายประจำบ้าน
◦ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3. หลักฐานแสดงสิทธิ์และการอยู่อาศัย
◦ สำเนาทะเบียนบ้านหลังใหม่ที่มีชื่อสมาชิกผู้ขอรับสวัสดิการไม่ว่าในฐานะเจ้าบ้านหรือผู้อยู่อาศัย
◦ สำเนาเอกสารแสดงสิทธิ์ในที่ดินที่มีชื่อของสมาชิก หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านดังกล่าว
7. สวัสดิการเพื่อรับขวัญทายาทใหม่
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- จ่ายเงินสวัสดิการเพื่อรับขวัญทายาทใหม่ของสมาชิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ยกเว้นบุตรบุญธรรมและบุตรนอกสมรส) ครอบครัวละ 1,000 บาท
- ยื่นขอรับสวัสดิการพร้อมทั้งแนบสำเนาสูติบัตรและสำเนาทะเบียนสมรส ภายในกำหนดเวลา 120 วัน นับแต่วันที่คลอดบุตร
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อรับขวัญทายาทใหม่ ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาสูติบัตร
3. สำเนาทะเบียนสมรส
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
8. สวัสดิการเพื่อการศึกษาของบุตรสมาชิก
หลักเกณฑ์การขอรับทุนการศึกษา
- ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- สมาชิก 1 คน ยื่นขอรับทุนการศึกษาบุตรได้ 1 คน กรณีที่สมาชิกและคู่สมรสเป็นสมาชิกสหกรณ์และมีบุตรมากกว่า 1 คน สามารถยื่นขอรับทุนการศึกษาบุตรได้ทั้งสองคน โดยสมาชิก 1 คน ต่อบุตร 1 คน
- สมาชิกที่ได้รับสวัสดิการสมาชิกที่ไม่มีบุตรหรือเป็นโสดแล้ว ไม่มีสิทธิ์ขอรับทุนการศึกษาของ บุตรสมาชิก
- สหกรณ์มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรสมาชิก(รวมถึงบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย) ที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีและไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์
ประเภทของทุน
ทุนการศึกษามี 3 ประเภท บุตรสมาชิก 1 คน มีสิทธิ์สมัครขอรับทุนได้ประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังนี้
(1) ทุนส่งเสริมการศึกษา
มอบให้บุตรสมาชิกทุกคนที่ส่งใบสมัครขอรับทุนทุกระดับชั้นการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาล – ปริญญาตรี ทุนละ 600 บาท
(2) ทุนเรียนดี
มอบให้บุตรสมาชิกที่มีผลการเรียนดี ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – ปริญญาตรี ในแต่ละระดับชั้นการศึกษา ให้ได้รับไม่เกิน 3,500 บาท (โดยให้เป็นไปตามประกาศสหกรณ์)
บุตรสมาชิกที่ได้รับทุนส่งเสริมการศึกษาหรือทุนเรียนดีแล้ว เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี (เกียรตินิยม) มีสิทธิขอรับทุนเพิ่ม ดังนี้
เกียรตินิยมอันดับ 1 ได้รับทุนเพิ่ม 2,500บาท
เกียรตินิยมอันดับ 2ได้รับทุนเพิ่ม 1,000บาท
(3) ทุนส่งเสริมการศึกษากรณีพิเศษ
มอบให้บุตรสมาชิกที่ศึกษาในโรงเรียนสอนคนพิการ หรือเป็นเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทุนละ ทั้งนี้สถานศึกษาจะต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ จำนวนเงินและจำนวนทุนให้เป็นไปตามประกาศสหกรณ์ ซึ่งจำนวนเงินของทุนต้องไม่เกิน 3,500 บาท
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อการศึกษาของบุตรสมาชิก
2. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อบุตรสมาชิก
3. หนังสือรับรองการศึกษา หรือเอกสารที่แสดงว่ากำลังศึกษาอยู่ในปีที่ขอรับทุนการศึกษาบุตร
4. ใบระเบียนการศึกษาหรือผลการเรียนเฉลี่ยของปีการศึกษาที่ผ่านมา (เฉพาะขอทุนเรียนดี)
5. หนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และสำเนาใบประกาศเกียรติคุณเกียรตินิยมระดับ ปริญญาตรี (เฉพาะขอทุนเกียรตินิยม)
6. หนังสือรับรองจากสถานศึกษาสอนคนพิการ หรือเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ (เฉพาะทุนส่งเสริมการศึกษากรณีพิเศษ)
7. ยื่นคำขอรับทุนการศึกษาระหว่างเดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม ของทุกปี (ตามประกาศสหกรณ์)
9. สวัสดิการเพื่อสมาชิกที่ไม่มีบุตรหรือเป็นโสด
สหกรณ์ขอมอบสวัสดิการเพื่อสมาชิกที่ไม่มีบุตรหรือเป็นโสด ให้แก่ บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของสมาชิกและหมายความรวมถึงบุตรบุญธรรมด้วย หรือสมาชิกที่ไม่มีการสมรสตามกฎหมายและหมายความรวมถึงผู้ที่หย่าร้างแล้ว และเมื่อสมาชิกได้ใช้สิทธิ์รับเงินสวัสดิการตามระเบียบนี้ไปแล้วไม่มีสิทธิ์รับสวัสดิการเพื่อการศึกษาของบุตรสมาชิกอีก
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- สมาชิกต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และมีอายุการเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 15 ปี
- สมาชิกที่รับโอนมาจากสหกรณ์อื่น ให้นับอายุการเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่สหกรณ์ได้รับโอนผู้นั้นเป็นสมาชิกสหกรณ์
- สหกรณ์จ่ายเงินสวัสดิการจำนวน 3,000 บาท เพียงครั้งเดียว
- กรณีสมาชิกและคู่สมรสเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินสวัสดิการ สหกรณ์จะจ่ายเงินสวัสดิการให้ทั้ง 2 คน
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อสมาชิกที่ไม่มีบุตรหรือเป็นโสด ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
10. สวัสดิการเพื่อการประกันชีวิตสมาชิก
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- สหกรณ์จะทำประกันชีวิตกลุ่มให้กับสมาชิกทุกรายตามที่บริษัทประกันชีวิตตอบรับการทำประกันชีวิต
- แบบฟอร์มทำประกันชีวิตกลุ่ม ที่ลิ้งก์นี้
ในกรณีที่สมาชิกเลือกทำประกันชีวิตกลุ่มค่าเบี้ยประกันที่ 35 บาท สหกรณ์จ่ายสนับสนุนค่าเบี้ยประกันชีวิตกลุ่มให้กับสมาชิก 35 บาท ความคุ้มครองเฉพาะกรณีเสียชีวิตจำนวน 100,000 บาท เสียชีวิตอุบัติเหตุจำนวน 150,000 บาท
- ในกรณีที่สมาชิกเลือกทำประกันชีวิตกลุ่มค่าเบี้ยประกันเกินกว่า 35 บาท สหกรณ์จ่ายสนับสนุนค่าเบี้ยประกันชีวิตกลุ่มให้กับสมาชิกรายละ 50 บาท / เดือน รวม 600 บาท/ปี
- เมื่อสมาชิกเสียชีวิต ให้ทายาทแจ้งเป็นหนังสือพร้อมแนบเอกสารหลักฐานเพื่อขอรับเงินสินไหมทดแทนภายใน กำหนด 180 วันนับตั้งแต่วันเสียชีวิต
- กรณีสมาชิกมีหนี้ค้างชำระอยู่กับสหกรณ์ สหกรณ์จะนำเงินสินไหมทดแทนที่ได้รับมาชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่กับสหกรณ์ ส่วนเงินที่เหลือสหกรณ์จะจ่ายให้กับผู้รับโอนประโยชน์ตามหนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์ต่อไป
เอกสารประกอบ
1. สำเนาใบมรณะบัตร
2. สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้านประทับตรา “ตาย”
4. หนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาล (กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาล)
5. ใบรับแจ้งการตาย (กรณีเสียชีวิตที่บ้าน) พร้อมแนบสำเนาบัตรข้าราชการของผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน
6. รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ)
7. ใบรายงานชันสูตรพลิกศพ (กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ)
11. สวัสดิการเพื่อสงเคราะห์สมาชิกประสบภัย
ประสบภัย หมายถึง ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ที่อยู่อาศัยของสมาชิก อันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ธรณีพิบัติภัย เป็นต้น และให้หมายรวมถึงอุบัติภัยอื่น ๆ ที่เกิดแก่ที่อยู่อาศัยด้วย
ความเสียหายที่จะได้รับเงินสงเคราะห์ตามระเบียบนี้ หมายถึง ความเสียหายต่อบ้านที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินที่ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะและทรัพย์สินที่อยู่ภายนอกบ้าน
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- ผู้มีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการ ต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน การนับอายุการเป็นสมาชิกให้นับตั้งแต่วันแรกเข้าเป็นสมาชิกจนถึงวันประสบภัย
- สมาชิกคนหนึ่งมีสิทธิ์รับเงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัยตามระเบียบนี้ได้เพียงปีละ 1 ครั้ง
- ยื่นขอรับสวัสดิการภายในกำหนดเวลา 60 วัน นับแต่วันที่สิ้นสุดการประสบภัย หากพ้นกำหนดนี้แล้วเป็นอันหมดสิทธิ์ในการขอรับเงินสงเคราะห์
- จำนวนเงินสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกประสบภัย ให้จ่ายดังนี้
ที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหมดไม่อาจซ่อมแซมได้ ให้จ่ายตามที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินรายละ
1. กรณีเป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนบ้าน จ่าย 40,000 บาท
2. กรณีเป็นผู้อาศัยและมีชื่อในทะเบียนบ้าน จ่าย 30,000 บาท
3. กรณีเป็นผู้อาศัยแต่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน จ่าย 10,000 บาท
ที่อยู่อาศัยเสียหายบางส่วน ให้จ่ายตามที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินรายละ
1. กรณีเป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนบ้าน จ่าย 4,000 บาท
2. กรณีเป็นผู้อาศัยและมีชื่อในทะเบียนบ้าน จ่าย 3,000 บาท
3. กรณีเป็นผู้อาศัยแต่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน จ่าย 1,000 บาท
กรณีที่อยู่อาศัยเป็นบ้านพักของทางราชการ ไม่ว่าจะมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือไม่ก็ตาม ให้จ่ายเฉพาะทรัพย์สินที่เสียหายซึ่งอยู่ในที่อยู่อาศัยและเป็นกรรมสิทธิ์ของสมาชิกผู้นั้น ตามมูลค่าที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินรายละ 3,000 บาท ให้มีหนังสือรับรองของผู้บังคับบัญชาว่าสมาชิกผู้นั้นได้อยู่อาศัยและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจริง
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อสงเคราะห์สมาชิกประสบภัย ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาทะเบียนบ้านที่ประสบภัยซึ่งสมาชิกมีชื่ออยู่ สำหรับผู้อยู่อาศัยแต่ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านจะต้องมีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าเป็นผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวจริง
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิก
4. รายการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่เสียหาย
5. รูปถ่ายที่อยู่อาศัยที่เสียหายและปรากฏเลขที่บ้าน
6. รูปถ่ายรายการทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายตามรายการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่เสียหาย
12. สวัสดิการเพื่อบำเหน็จสมาชิก
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- สมาชิกต้องมีอายุครบ 60 ปี และมีอายุการเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 10 ปี
- การนับอายุของสมาชิก และอายุการเป็นสมาชิก ให้นับถึงวันที่ 30 กันยายนของทุกปีเศษของปีให้ตัดทิ้ง
- สมาชิกที่รับโอนมาจากสหกรณ์อื่น ให้นับอายุการเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่สหกรณ์ได้รับโอนผู้นั้นเป็นสมาชิกสหกรณ์
- การคิดคำนวณเงินสวัสดิการเพื่อบำเหน็จสมาชิก ให้คำนวณจากจำนวนปีที่เป็นสมาชิกคูณด้วยจำนวนหุ้นที่มีอยู่ในสหกรณ์หารด้วยหนึ่งร้อย หากต่ำกว่า 2,000 บาท ให้จ่าย 2,000 บาท แต่ทั้งนี้จำนวนเงินบำเหน็จต้องไม่เกิน 10,000 บาท จ่ายเพียงครั้งเดียวเมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปี
- กรณีสมาชิกยังมีหนี้ค้างชำระอยู่กับสหกรณ์เกินกว่าร้อยละ 90 ของทุนเรือนหุ้น ให้สหกรณ์นำเงินที่คำนวณได้มาชำระหนี้ของสมาชิกที่ค้างชำระอยู่ทั้งหมดก่อน
- จ่ายเงินสวัสดิการให้สมาชิกในเดือนตุลาคมของทุกปี หรือตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
13. สวัสดิการเพื่อเกื้อกูลสมาชิกอาวุโส
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- สมาชิกต้องมีอายุตั้งแต่ 61 ปีขึ้นไป และมีอายุการเป็นสมาชิกติดต่อกันไม่น้อยกว่า 10 ปี
- การนับอายุของสมาชิก และอายุการเป็นสมาชิก ให้นับถึงวันที่ 30 กันยายนของทุกปี เศษของปีให้ตัดทิ้ง
- สมาชิกที่รับโอนมาจากสหกรณ์อื่น ให้นับอายุการเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่สหกรณ์ได้รับโอนผู้นั้นเป็นสมาชิกสหกรณ์
- จ่ายเงินสวัสดิการให้สมาชิกในเดือนตุลาคม ของทุกปี หรือตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร
- จ่ายเงินสวัสดิการให้แก่สมาชิกอาวุโส ตามรายละเอียด ดังนี้
สมาชิกอาวุโสที่มีอายุการเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 10 ปี จ่าย 1,000 บาท
สมาชิกอาวุโสที่มีอายุการเป็นสมาชิกตั้งแต่ 20 ปี จ่าย 1,500 บาท
สมาชิกอาวุโสที่มีอายุการเป็นสมาชิกตั้งแต่ 30 ปี จ่าย 2,000 บาท
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
15. สวัสดิการเพื่อสงเคราะห์สมาชิกเมื่อทุพพลภาพ
ทุพพลภาพ หมายความว่า สูญเสียอวัยวะ ดังต่อไปนี้ สูญเสียตาหนึ่งข้าง สูญเสียมือหนึ่งข้างหรือเท้าหนึ่งข้าง สูญเสียการได้ยินโดยสิ้นเชิงและไม่มีทางรักษาให้หายได้ หรือ เจ็บป่วยถึงขั้นหย่อนความสามารถจนต้องออกจากราชการ หรือ บุคคลที่ออกจากราชการแล้วเจ็บป่วยจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งนี้สภาพหย่อนความสามารถต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 180 วัน
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- จ่ายให้แก่สมาชิกที่ทุพพลภาพ คำนวณตามอายุการเป็นสมาชิก ปีละ 8,000 บาท หากเศษของปีเกินกว่า 6 เดือนให้นับเป็น 1 ปี ทั้งนี้ไม่เกิน 80,000 บาท โดยให้จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 4,000 บาท จนกว่าจะครบ
- กรณีสมาชิกผู้ที่ได้รับเงินสงเคราะห์ตามระเบียบนี้เสียชีวิตก่อนได้รับเงินครบตามจำนวน ให้จ่ายเงินส่วนที่เหลือแก่ผู้รับประโยชน์ หรือทายาทตามกฎหมาย
- ให้สมาชิกหรือทายาทหรือผู้รับโอนประโยชน์ทำหนังสือแจ้งให้สหกรณ์ทราบโดยเร็ว พร้อมทั้งแสดงใบรับรองแพทย์หรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ที่ทุพพลภาพก่อนเป็นสมาชิกไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินสวัสดิการ
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อสงเคราะห์สมาชิกเมื่อทุพพลภาพ ที่ลิ้งก์นี้
2. หนังสือรับรองจากแพทย์ผู้ทำการรักษา
3. รูปถ่ายของสมาชิกขณะที่ทุพพลภาพ
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
16. สวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพบิดา มารดา คู่สมรส และบุตรของสมาชิก
สหกรณ์ขอมอบสวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพบิดา มารดา คู่สมรส และบุตรของสมาชิก เพื่อมอบเป็นสิ่งของแสดงการไว้อาลัยและหรือเงินร่วมทำบุญ ในนามสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- สหกรณ์จะจ่ายเงินสวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพบิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของสมาชิก ให้ศพละ 2,000 บาท
- ยื่นขอรับสวัสดิการภายในกำหนดเวลา 60 วัน นับแต่วันที่ถึงแก่กรรม
- สหกรณ์จะนำฝากเงินสวัสดิการดังกล่าวเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกที่เปิดไว้กับสหกรณ์
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพบิดา มารดา คู่สมรส และบุตรสมาชิก ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาใบมรณะบัตรผู้ถึงแก่กรรม
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านผู้ถึงแก่กรรม
4. สำเนาทะเบียนสมรส (ผู้ถึงแก่กรรมเป็นคู่สมรสสมาชิก)
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านผู้ขอรับสวัสดิการ
17. สวัสดิการเพื่อสงเคราะห์การศพสำหรับสมาชิกที่มิได้ทำประกันชีวิต
สมาชิกที่มีสิทธิ์ได้รับต้องเป็นผู้ที่มิได้รับเงินสวัสดิการเพื่อการประกันชีวิตสมาชิก หรือทำประกันชีวิตกลุ่มแล้วแต่ได้รับการปฏิเสธการจ่ายเงินสินไหมจากบริษัทผู้รับประกัน
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- สหกรณ์จะจ่ายเงินเพื่อสงเคราะห์การศพสำหรับสมาชิกที่มิได้ทำประกันชีวิต ตามอายุการเป็นสมาชิกปีละ 10,000 บาท หากเศษของปีเกินกว่า 6 เดือน ให้นับเป็น 1 ปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- สหกรณ์จะจ่ายเงินเพื่อสงเคราะห์การศพให้สมาชิกที่เสียชีวิตและมีอายุเกิน 70 ปี
- เมื่อสมาชิกเสียชีวิตให้ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินหรือทายาทแจ้งเป็นหนังสือพร้อมแนบเอกสารหลักฐานในการขอรับเงินสวัสดิการภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันเสียชีวิต เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วเป็นอันหมดสิทธิ์ในการขอรับเงิน
- กรณีสมาชิกมีหนี้ค้างชำระอยู่กับสหกรณ์ สหกรณ์จะนำเงินที่ได้รับมาชำระหนี้ที่ค้างชำระ ส่วนเงินที่เหลือสหกรณ์จะจ่ายให้กับผู้รับโอนประโยชน์หรือทายาทตามกฎหมายต่อไป
เอกสารประกอบ
1. สำเนาใบมรณะบัตร
2. สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้านประทับตรา “ตาย”
4. หนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาล (กรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาล)
5. ใบรับแจ้งการตาย (กรณีเสียชีวิตที่บ้าน) พร้อมแนบสำเนาบัตรข้าราชการของผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ใหญ่บ้านหรือกำนัน
6. รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ)
7. ใบรายงานชันสูตรพลิกศพ (กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ)
18. สวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพสมาชิก
เมื่อสมาชิกเสียชีวิตสหกรณ์ขอมอบสวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพสมาชิก โดยมอบเป็นสิ่งของแสดงการไว้อาลัยและหรือเงินร่วมทำบุญงานศพสมาชิก ในนามสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จำกัด ซึ่งผู้มีสิทธิ์ยื่นขอรับสวัสดิการได้แก่ผู้แทนสมาชิก หรือบิดา มารดา คู่สมรส บุตร หรือทายาทโดยชอบธรรมของสมาชิกผู้ที่ถึงแก่กรรม
หลักเกณฑ์การขอรับสวัสดิการ
- จ่ายเงินสวัสดิการเพื่อช่วยเหลืองานศพสมาชิกจำนวน 3,000 บาท
- ยื่นขอรับสวัสดิการภายในกำหนดเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ถึงแก่กรรม
เอกสารประกอบ
1. ใบคำขอรับสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือศพสมาชิก ที่ลิ้งก์นี้
2. สำเนาใบมรณะบัตรของสมาชิกผู้ถึงแก่กรรม
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของสมาชิกผู้ถึงแก่กรรม
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอรับสวัสดิการ
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้ขอรับสวัสดิการเป็นคู่สมรสของสมาชิกผู้ถึงแก่กรรม)
6. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ขอรับเงินสวัสดิการ (ธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์)
19. สิทธิฝากเงินออมทรัพย์เกษียณเปี่ยมสุข
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 100 บาท (เปิดได้คนละ 1 บัญชี เฉพาะสมาชิกหลักที่เกษียณอายุราชการ)
เงินที่นำมาฝากจะต้องเป็นเงินที่ได้มาจากการเกษียณและจ่ายจากกรมบัญชีกลาง เช่น เงินบำเหน็จ บำนาญ กบข กสจ บำเหน็จ ดำรงชีพ และเงินพิเศษเพิ่ม หรือเงินที่ได้รับจากทางราชการอื่น ๆ - สามารถหักจากเงินเดือนเป็นรายเดือนได้ (ไม่เกินเงินบำนาญที่ได้รับ)
- ถอนที่สหกรณ์เมื่อใดก็ได้
- จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 30 มิ.ย. และ 31 ธ.ค.
- อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี
คลิ๊ก >>ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีออมทรัพย์เกษียณเปี่ยมสุข
20. สิทธิการกู้หุ้น หรือ เงินฝาก
สมาชิกเกษียณอายุราชการ มีสิทธิกู้หุ้น หรือ เงินฝากได้ไม่เกิน 90% ของหุ้น เหลือเงินฝาก ที่สมาชิก มีอยู่ในสหกรณ์
21. สิทธิการงดการส่งหุ้น
สมาชิกเกษียณอายุราชการ ที่ไม่มีหนี้ หรือมีหนี้ไม่เกินกว่าหุ้น สามารถงดง่ายหุ้นรายเดือน
22. สิทธิรับใบแจ้งยอดคงเหลือรายเดือน 6 เดือน
สมาชิกเกษียณอายุราชการ จะได้รับบริการจัดส่งใบแจ้งยอดคงเหลือราย 6 เดือน เพื่อแจ้งจำนวนเงินทุนเรือนหุ้น เงินฝาก หรือ เงินกู้ (ถ้ามี) ทุกๆ 6 เดือน เพื่อเป็นหลักฐานแก่สมาชิก โดยสหกรณ์จะจัดส่งถึงบ้านสมาชิก