หลังจากสหกรณ์มีการประกาศปรับเพิ่มเบี้ยประกันชีวิตกลุ่ม ไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 67 เนื่องจาก บ.ประกันชีวิตกลุ่ม (ไทยสมุทรฯ) คาดการณ์ว่าอัตรา Loss Ratio จะสูงขึ้นถึง 91% - 95% จึงขอปรับเพิ่มเบี้ยประกันขึ้นเป็น 27%

เพื่อให้สมาชิกยังคงได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง

สหกรณ์จึงต้องต่อสัญญากับ บ.ไทยสมุทรฯ เพื่อให้การประกันชีวิตของสมาชิกมีความต่อเนื่อง โดยมีหนังสือแจ้งขอให้ บ.ไทยสมุทรฯ ปรับเพิ่มเบี้ยประกันตามอัตรา loss ratio ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำไว้ หลังจากนั้น บ.ไทยสมุทรฯ มีหนังสือแจ้งยืนยันอัตราดอกเบี้ยประกันที่ปรับเพิ่มขึ้น 27%
 

เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของสมาชิกและสหกรณ์

คณะกรรมการมองเห็นว่าอัตราค่าเบี้ยประกันที่ บ.ไทยสมุทรฯ เรียกเก็บเกินกว่าค่า Loss Ratio ที่เกิดขึ้นจริง สหกรณ์จึงได้ดำเนินการยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมต่อ สนง.คปภ.(สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) เพื่อให้บริษัท ไทยสมุทรฯ ปรับเบี้ยประกันภัยใหม่ให้เป็นไปตามเอกสารเสนอขายที่ออกโดยบริษัทฯ และใช้เกณฑ์อัตราเรียกร้องสินไหมทดแทน Loss Ratio ที่แท้จริงในการคำนวณเบี้ยประกันภัยปีที่ 3

วันที่ 11 ตุลาคม 2567 บริษัท ไทยสมุทรฯ ได้ส่งบันทึกข้อตกลง มายังสหกรณ์ สรุปข้อความดังนี้

ข้อ 1 บริษัทฯ ตกลงปรับเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุปีที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 67 – 30 เม.ย. 68 จากเดิมเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ปรับเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และตกลงคืนเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุปีที่ 3 ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันทำบันทึกข้อตกลง

ข้อ 2 หากสหกรณ์ฯ มีการเรียกร้องสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยของปีกรมธรรม์ที่ 2 เพิ่มเติม มีผลทำให้อัตราเรียกร้องสินไหมทดแทนเกินกว่าช่วง Loss Ratio 76 – 80  สหกรณ์ฯ ตกลงให้ปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยตาม Loss Ratio ที่เกิดขึ้นจริงได้

ข้อ 3 สหกรณ์ฯ ยอมรับว่า เอกสารต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ออกตามกรมธรรม์เลขที่ GU5169 ถูกต้องแล้ว

ข้อ 4 นอกจากที่ตกลงตามบันทึกข้อตกลงฉบับนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเรียกร้องใด ๆ ต่อกันอีก

ข้อ 5 สหกรณ์ฯ ตกลงทำหนังสือยุติเรื่องร้องเรียนต่อบริษัทฯ และต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. เพื่อแสดงการยุติเรื่องร้องเรียนในครั้งนี้

สรุปผลการดำเนินการเกี่ยวกับประกันชีวิตกลุ่ม 
จากที่ทางคณะกรรมการได้มีการเจรจาต่อรองกับทางบริษัทประกันชีวิต เนื่องจากค่าเบี้ยประกันชีวิตมีการปรับราคาสูงเกินกว่าค่า Loss Ratio ที่เกิดขึ้นจริง จึงเป็นผลให้ทางบริษัทประกันยอมปรับปรุงค่าเบี้ยประกันใหม่ และคืนค่าเบี้ยประกันที่เก็บเกินไปรวม 6 เดือน เป็นจำนวน 17,429,691.04 บาท โดยสหกรณ์จะทำการโอนคืนเข้าบัญชีออมทรัพย์สินมัธยัสถ์ของสมาชิกแต่ละรายต่อไป เมื่อสหกรณ์ได้ทำการโอนเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วจะประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกได้ทราบทุกช่องทาง

 

อัตราเบี้ยประกันแบบใหม่ สำหรับสมาชิก เริ่ม 1 พ.ย. 67